
การแข่งขันกีฬาที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ของชาวเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ “กีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 30” <SEA Games> ที่ สาธารณรัฐฟิลิปปินส์ ซึ่งได้เริ่มการแข่งขันแล้ว สิ่งที่เหล่านักกีฬา และเจ้าหน้าที่ของชาติที่เข้าร่วม มหกรรมครั้งนี้ต่างประสบพบเจอก็คือ ปัญหาต่างๆ ที่ทางเจ้าภาพนั้น ไม่มีความพร้อมเอาเสียเลย เริ่มจากปัญหาเรื่องโรงแรมที่พักที่จัดให้สำหรับทัพนักกีฬาชาติต่างๆ ซึ่งทีมชาติกัมพูชาต้องรอนาน 8-9 ชั่วโมง เพราะมีปัญหาเรื่องห้องพัก บางคนถึงกับนอนบนพื้นรอด้วยความเซ็ง ขณะที่รถชัตเติลบัสของทีม ติมอร์เลสเต พานักกีฬาไปส่งผิดโรงแรม ต้องรอเป็นชั่วโมง กว่าจะได้รถคันใหม่มารับไปโรงแรมที่ถูกต้อง ทำเอาการฝึกซ้อมคลาดเคลื่อนกันไปหมด ยิ่งเรื่องการคมนาคม ก็เป็นอีกปัญหาหนึ่ง ที่ทำให้หลายชาติบ่นเป็นเสียงเดียวกัน นักฟุตบอลเมียนมา ต้องรอที่สนามบินอยู่นานกว่าที่รถชัตเติลบัสจะไปรับ และต้องยกเลิกโปรแกรมการซ้อมช่วงบ่ายของวันนั้นแทน สุดท้ายทีมฟุตบอลท้องถิ่นของฟิลิปปินส์ ต้องยื่นมือเข้ามาช่วย ด้วยการให้ยืมรถบัสของสโมสรถึง 17 คัน เพื่อรับส่งนักกีฬาฟุตบอลชาติต่างๆ
ปัญหาเรื่องของการเดินทางนั้น ไม่ได้เกิดจากการบริหารจัดการ ตารางเดินรถ ที่ขาดประสิทธิภาพอย่างเดียว ปัญหาส่วนหนึ่งเกิดจากทางเจ้าภาพเอง จัดสถานที่รองรับที่ไม่เหมาะสม ตัวอย่างเช่น ทีมฟุตบอลช้างศึกของเรา ซึ่งเป็นหนึ่งในนักกีฬาไทยชุดแรก ที่เดินทางถึงฟิลิปปินส์ และมีเสียงบ่นมากมายหลายเรื่อง ตั้งแต่ที่ต้องรอรถอยู่ที่สนามบินหลายชั่วโมง สภาพห้องพัก และอาหารการกิน ก็ไม่ค่อยมีคุณภาพ ที่สำคัญคือ สนามซ้อมยังอยู่ห่างจากโรงแรมที่พักถึง 30 กิโลเมตร และเมื่อเจอสภาพรถติดในกรุงมะนิลาเข้าไปอีก ก็ต้องใช้เวลาเดินทางต่อ 1 เที่ยวถึง 2 ชั่วโมง ด้านสื่อสิงค์โปร์ก็ได้รายงานว่า จูเลียน่า โซว หัวหน้านักกีฬา ได้ออกมาโวยฝ่ายจัดการแข่งขันซีเกมส์ ครั้งที่ 30 ว่า นักเตะส่วนใหญ่ของทีม เป็นมุสลิม แต่เจ้าภาพกลับจัดอาหารฮาลาลในโรงแรมที่พักมารองรับไม่เพียงพอ ซึ่งนักเตะมุสลิมของมาเลเซีย และ บรูไน ที่พักอยู่โรงแรมเดียวกัน ก็ต้องเจอปัญหาไม่ต่างกัน แพทย์ประจำทีมนักกีฬาของบรูไน ก็ได้ออกมาตำหนิอีก เนื่องจากได้แจ้งข้อมูลเกี่ยวกับอาการแพ้ของนักกีฬาให้กับฝ่ายจัดไว้หมดแล้ว แต่ทางโรงแรมที่พัก ก็ยังจัดอาหารที่มีส่วนประกอบเหล่านั้นมา ทำให้แพทย์แจ้งให้ทางโรงแรม ต้องแจ้งวัตถุดิบที่นำมาประกอบอาหารให้ทราบก่อนทุกมื้อ เพื่อป้องกันประวัติศาสตร์ซ้ำรอย
พร้อมกันนี้ สื่อของอินโดนีเซีย พร้อมใจกันบ่นเรื่องสนามริซาล เมมโมเรียล สเตเดียม ในกรุงมะนิลา ซึ่งขนาดถึงเวลาแข่งขันจริงแล้ว พื้นที่หลายส่วนของสนามก็ยังอยู่ระหว่างการปรับปรุงอยู่เลย แม้แต่ห้องแต่งตัวของนักกีฬา แถมในโลกออนไลน์ยังพร้อมใจกันแชร์ภาพคนงานของเจ้าภาพนำสีไปป้ายบนอัฒจันทร์ปูนพร้อมตั้งคำถามว่า เป็นเทคนิคหลอกตาเพราะดูไกลๆจะได้เหมือนติดตั้งเก้าอีกบนอัฒจันทร์เรียบร้อยแล้ว หลากหลายปัญหาที่เกิดขึ้นนี้ แม้แต่ชาวฟิลิปปินส์เอง ก็ยังสะท้อนความขัดเคืองเรื่องของความไม่พร้อม ในการเป็นเจ้าภาพซีเกมส์ของประเทศตัวเองกันเลย ล้มเหลวจริงๆครับ สำหรับเจ้าภาพฟิลิปปินส์