ฤดูกาลนี้ แชมป์พรีเมียร์ลีก ยกให้ ลิเวอร์พูล

แชมป์พรีเมียร์ลีก หงส์แดง ลิเวอร์พูล

ฤดูกาลนี้ แชมป์พรีเมียร์ลีก คงต้องยกให้ ลิเวอร์พูล เข้าเดือนกุมภาพันธ์มาแล้ว คะแนนของทีม “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ก็ยังคงทิ้งห่างอันดับสองออกไปทุกทีทุกที  เห็นทีแฟนหงส์ทั่วโลก คงได้สมใจกันล่ะครับฤดูกาลนี้ เชื่อว่าฤดูกาลนี้ ลูกทีมของ เจอร์เก้น คล๊อป มีความมั่นใจเกิน 100% กันแล้ว สำหรับการคว้าแชมป์ถ้วยลีกสูงสุดของเกาะอังกฤษซะที จากปัจจัยแวดล้อม ค่อนข้างที่จะเข้าข้างทีมลิเวอร์พูลมากกว่าฤดูกาลก่อนหน้านี้มากนัก การที่ผ่านช่วงศึกหนัก Boxing Day  ผ่านต้นปี 2020 มาได้แบบเก็บชัยชนะเป็นว่าเล่น แถมคู่แข่ง (แชมป์เก่า) อย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ก็ดันมาสะดุดหลายนัดติดๆกัน ส่งผลให้วันนี้ “หงส์แดง” มีแต้มห่างจากอันดับสองอยู่ถึง 22 แต้ม หลังผ่านนัดที่ 25 มาแล้ว ซึ่งหากจะนับครั้งสุดท้าย ที่ทีมลิเวอร์พูล สามารถคว้าแชมป์ลีกสูงสุดของอังกฤษได้ ก็ต้องย้อนกลับไปเมื่อ 30 ปีที่แล้ว หรือในฤดูกาล 1989-1999 ที่มี “คิงเคนนี่” เคนนี่ ดัลกลิช เป็นผู้จัดการทีม และในตอนนั้น “กัปตันเจิด” สตีเฟ่น เจอร์ราร์ด เพิ่งเริ่มเล่นฟุตบอลเป็นครั้งแรกกับสโมสรวิสตัน จูเนียร์ส

ที่ต้องกล่าวถึง “กัปตันเจิด” สตีเฟ่น เจอร์ราร์ด ก็เพราะ เค้าคือผู้เล่นสำคัญของทีม ลิเวอร์พูล ที่ “เดอะค๊อป” ทั่วโลกยกให้เป็นผู้เล่นตำนานของทีม ที่น่าจะมีโอกาสชูถ้วยแชมป์ลีกสูงสุดของเกาะอังกฤษเป็นที่สุด และคู่แข่งสำคัญในช่วงนั้นก็คือ ปีศาจแดง แต่หลังการประกาศยุติการทำหน้าที่ผู้จัดการทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดไปเมื่อ หลังจบฤดูกาล 2012-2013 ของ เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน หลังจากนั้นทีม “ผีแดง” ก็เผชิญวิบากกรรมจากการไม่ลงตัวของผู้จัดการทีมที่ต่างก็ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันเข้าไปดูแลทีมนี้ถึง 5 คนจนถึงปัจจุบัน เริ่มตั้งแต่ เดวิด มอยส์, ไรอัน กิกส์, หลุย ฟาน กัล, โชเซ่ มูรินโญ่ และ โอเล่ กุนน่า โซลชา (ในปัจจุบัน) ล้วนแล้วแต่ยังไม่สามารถที่จะนำทีมผีแดงกลับมาครองความยิ่งใหญ่ได้อีกเลย แต่ด้วยอายุของกัปตันเจิดก็สูงขึ้นเรื่อยๆ และได้อำลาจากทีมไปเมื่อฤดูกาล 2015 และยังไม่สามารถนำทีมหงส์แดงคว้าแชมป์ลีกสูงสุดได้ในช่วงที่เค้าทำหน้าที่กัปตันทีมอยู่

ด้วยสถิติ (วันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2020) แข่ง 25 นัด ชนะ 24 เสมอ 1 ยังไม่แพ้ใคร ทำประตูได้ 60 ประตู เสียประตูแค่ 15 ประตู มีแต้มอยู่ 73 แต้มนำโด่งอยู่  ซึ่งถ้ามองในวันนี้แล้ว หากทีม หงส์แดง ลิเวอร์พูล ไม่สามารถคว้าแชมป์ที่รอคอยมากว่า 30 ปีนี้ ไปไม่ได้ในฤดูกาลนี้ ก็คงต้องบอกว่าไม่น่าจะมีโอกาสอีกแล้วแน่นอน เอาใจช่วย “เดอะค๊อป” ทั่วโลกนะครับ