
หากจะถามว่าความสำเร็จของทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยุคที่เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสันทำทีมอยู่นั้น มีนักเตะคนใดที่ไม่ค่อยมีใครพูดถึง แต่หน้าที่ของเค้านั้นถือได้ว่าเป็น “ผู้ปิดทองหลังพระ” ชื่อที่ผมนึกถึงนั่นก็คือ “พาร์ค จีซอง” กองกลางชาวเกาหลีใต้ ที่ เวย์น รูนี่ย์ เคยยกย่องว่ามีบทบาทสำคัญเทียบเท่า คริสเตียโน่ โรนัลโด้ เลยก็ว่าได้ นักเตะแดนโสมขาวผู้นี้ ย้ายจากทีมพีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น มาอยู่ในถิ่นโอลด์แทร็ฟฟอร์ด เมื่อปี 2005 และอยู่กับทีมแมนยูฯนานหลายฤดูกาลก่อนที่จะลาไปในปี 2012 พร้อมกับเกียรติประวัติด้วยการคว้าแชมป์พรีเมียรลีกอังกฤษ 4 สมัย, ลีก คัพ 3 สมัย และ แชมป์เปี้ยนส์ ลีก อีก 1 สมัย
พาร์ค จีซอง ไม่ได้ย้ายมาอยู่กับแมนยูฯ ด้วยเหตุผลด้านการตลาด แต่เขาเป็นนักเตะที่เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ประทับใจในลีลาการเล่นที่มุ่งมั่น พลังไม่มีตก และ สามารถทำตามคำสั่งได้ทุกกระเบียดนิ้ว จึงไม่ใช่เรื่องแปลกใจที่เขาจะได้สวมชุด “เร้ดเดวิลส์” ได้นานถึง 7 ฤดูกาล หนึ่งในจุดเด่นของ พาร์ค จีซอง ก็คือการรับบท “มดงาน” ในกับทีม และทำหน้าที่เป็นเหมือนผู้ปิดทองหลังพระ ที่คอยจัดการกับคู่แข่ง ทำให้ทีมเล่นได้ง่ายและนี่เป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้ เวย์น รูนี่ย์, โรนัลโด้ และ คาร์ลอส เตเวซ ได้เล่นแบบสบายและยิงประตูได้เป็นกอบเป็นกำ สำหรับเรื่องนี้ไม่ใช่แค่การพูดกับแบบปากต่อปากจากคนนอก เพราะมันมาจากปากของ เวย์น รูนี่ย์ ที่ได้สัมผัสถึงความเก่งกาจของนักเตะแดนโสมขาวรายนี้ โดยเฉพาะในเกมที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ปะทะ เอซี มิลาน ซึ่งเป็นแมตช์ที่ พาร์ค จีซอง แสดงให้เห็นถึงคุณภาพระดับโลกของเขา จนทำให้ อันเดรีย ปีร์โล่ กลายเป็นนักเตะไร้ประสิทธิภาพไปเลยในเกมนั้น
เวย์น รูนี่ย์ กองหน้าเจ้าของตำแหน่งดาวยิงสูงสุดตลอดกาลของทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กล่าวถึงอดีตเพื่อนร่วมทีมที่ปัจจุบันได้แขวนสตั๊ดไปแล้วว่า “มันบ้าบอที่สุดแต่ถ้าคุณพูดถึง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ กับ เด็กอายุ 12 ปี พวกเขาคงจะตอบว่า รู้จัก แต่หากเอ่ยชื่อ พาร์ค จีซอง เด็กพวกนั้นอาจจะไม่รู้จักเขาเลยว่าเป็นใคร เราทุกคนเคยเล่นร่วมกับ พาร์ค จีซอง และรู้ว่าเขาแทบจะมีความสำคัญกับความสำเร็จของเรา นั่นเป็นเพราะสิ่งที่ พาร์ค ทุ่มเทให้กับทีมและผมกำลังพูดถึงการเล่นร่วมกันเป็นทีม สิ่งเหล่านั้นไม่เกี่ยวกับความเป็นสตาร์ดัง แต่มันเป็นสิ่งสำคัญในวงการกีฬา”
ตี๋พาร์ค ย้ายมาอยู่กับทีมแมนยูฯ ด้วยค่าตัวเพียง 4 ล้านปอนด์ (ราว 152 ล้านบาท) เท่านั้น เมื่อปี 2005 โดยเป็นส่วนหนึ่งในแผนการสร้างทีมของ ป๋าเฟอร์กี้ ที่ต้องการปรับทีมเพื่อกลับมาทวงความสำเร็จจากทีมอาร์เซน่อล และ เชลซี แน่นอนว่าสายตาของ เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน สุดเฉียบในการดึงเขามาร่วมทีม เพราะนักเตะเล่นได้เป็นอย่างดี และ ทำหน้าที่มดงานได้ตามที่ ท่านเซอร์ฯ ต้องการ โดยผลงานของเขา กับ ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์ มีส่วนสำคัญต่อความสำเร็จของแมนยูฯทั้งในพรีเมียร์ลีก และ แชมป์เปี้ยนส์ ลีก ซึ่งพวกเข้าทะลุเข้ารอบชิงชนะเลิศถึง 3 ครั้ง จาก 4 ฤดูกาลเลยทีเดียว
เห็นได้ชัดเจนว่านักเตะประเภทมดงานนั้นมีความสำคัญต่อหลายๆทีม การประสบความสำเร็จของทีมเหล่านั้นมักจะต้องมีผู้เล่นแบบนี้คอยจัดการเก็บกวาดงานสำคัญ เพื่อให้นักเตะคนอื่นๆเล่นได้ง่ายขึ้นและนำไปสู่ความสำเร็จของสโมสรในเวลาต่อมา